การทำการตลาดนั้นถ้าหากว่าสังเกตดูดีๆ แล้วจะพบว่ามันมีความใกล้ชิดและใกล้เคียงกับรูการใช้ชีวิตและกิจกรรมประจำวันอยู่มาก ยกตัวอย่างง่ายๆ ครับ เช่นการพูดคุยกับเพื่อนฝูงที่ต้องอาศัยทักษะการเล่าเรื่องเพื่อให้เพื่อนเกิดความรู้สึกเชื่อและยอมรับ หรือแม้แต่การจีบสาวที่ต้องทำการโน้มน้าวให้เขาเห็นจุดเด่นหรือส่วนที่ดีของเรา เป็นต้น จะเห็นว่ากิจกรรมที่เราเห็นในชีวิตประจำวันเหล่านี้แท้ที่จริงก็คือการทำการตลาดเพื่อให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเราเกิดความรู้สึกพึงพอใจและเลือกสิ่งที่เรานำเสนอในที่สุด และนี่คือ 6 เทคนิคการนำเรื่องใกล้ตัวมาประยุกต์ใช้กับการทำ Marketing ได้โดยไม่ยากครับ
1. เล่าเรื่องเดียวกันแต่คนละแบบเพราะการรับรู้ของแต่ละคนแตกต่างกัน
เนื่องจากลูกค้าหรือผู้ฟังแต่ละคนมีลักษณะการรับรู้ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เวลาที่เราติดต่อสื่อสารกับแต่ละคนควรเลือกลักษณะการนำเสนอให้ถูกต้องและเหมาะสมกับลูกค้าแต่ละประเภท
2. สร้างคุณค่าเพื่อเรียกลูกค้าดีกว่าไล่จับลูกค้า
หยุดการไล่ตื๊อลูกค้ากันเถอะ เพราะวิธีนี้นอกจากจะใช้ไม่ได้ผล แล้วยังส่งผลเสียให้บรรดาลูกค้าของเราเกิดความรำคาญอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น ขนมขบเคี้ยวอย่างเลย์ ก็ใช้วิธีให้ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมในการทำ R&D โดยการจัดประกวดรสชาติใหม่ๆ และให้ลูกค้าทั่วไปมีโอกาสได้โหวตรสชาติที่ตัวเองชื่นชอบทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกด้านบวกต่อแบรนด์และส่งผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าในที่สุด 3. ทุกคนมีเป้าหมายในชีวิต ลองเลือกตอบโจทย์เหล่านั้นในมุมมองที่แตกต่าง
อย่าเพิ่งสนใจว่าคุณกำลังขายอะไรเป็นอันดับแรก เพราะไม่ว่าจะขายอะไรก็แล้วแต่สุดท้ายก็ต้องหันมาสนใจเป้าหมายของลูกค้าเป็นหลัก ซึ่งบางครั้งพวกเขาเหล่านั้นอาจจะยังไม่รู้หรอกว่าแท้จริงแล้วตัวเองต้องการอะไร การเสนอทางเลือกหรือแนวทางการเรียนรู้ใหม่ๆ อาจทำให้พวกเขาสนใจในสินค้าและการบริการของคุณก็ได้
4. หาไอเดียเพื่อเพิ่มความคิดสร้างสรรค์
แบรนด์ส่วนมากที่ประสบความสำเร็จล้วนแล้วแต่มาจากความคิดสร้างสรรค์ทั้งนั้น อย่างบริษัท Apple ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างมากในการสร้างอุปกรณ์เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ให้กับคนส่วนมากได้อย่างดีเยี่ยมจนประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
5. แม้แต่ไอเดียที่ดูไม่น่าจะดี ก็อาจมีแง่มุมที่น่าสนใจซ่อนอยู่
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ไอเดียดีๆ หลายๆ อย่างต้องตายไปก่อนที่จะได้นำเสนอและถูกนำมาใช้ อย่างน่าเสียดายก็คือความกลัวที่จะโดนปฏิเสธ สิ่งเหล่านี้สามารถหลีกเลี่ยงได้โดยการรู้จักรับฟังและรู้จักตอบรับอย่างสุภาพ แทนที่เราจะคอยใช้คำพูดปฏิเสธว่าไอเดียนี้ไม่ดี ไม่เห็นด้วย เปลี่ยนมาเป็นคำพูดที่ว่า ไอเดียนี้น่าสนใจดีนะ “ถ้าเราลองนำไอเดียมา…ดูนะ”
6. แก้ปัญหาลูกค้าให้ได้ก่อนจะเสนอขายสินค้า
ในโลกของการทำมาเก็ตติ้งสิ่งหนึ่งที่คนเราชอบเข้าใจผิดๆ คือการเน้นขายสินค้าโดยการพูดถึงแต่สิ่งที่เกียวกับสินค้า ตัวบริษัท ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วลูกค้าเพียงต้องการอยากรู้แค่ว่าสินค้าหรือบริการของเราจะช่วยพวกเขาแก้ปัญหาได้อย่างไรต่างหาก ดังนั้นเราควรให้คำแนะนำและอธิบายว่าสินค้าหรือบริการของเรานั้นจะช่วยแก้ปัญหาให้ลูกค้าอย่างไรได้บ้างจะช่วยให้ลูกค้าเกิดความสนใจที่จะซื้อมากกว่า
Satapol CEO
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น